Sex-"กวาวเครือ" รักษาอัลไซเมอร์


ในนี้ปัจจุบันมีผู้สูงอายุในไทย ซึ่งป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมถึง 9 แสนราย และมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี ปีละ 12,000 ราย ทำให้เป็นภาระแก่ญาติผู้ดูแล และประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมที่ได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่เริ่มต้น และได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง สามารถชะลอการดำเนินโรคให้ช้าลงได้ ทำให้ผู้ป่วยช่วยตัวเองได้มากขึ้นและลดภาระของผู้ดูแลผู้ป่วยลงได้ เนื่องจากมีการศึกษาพบว่า ญาติผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมส่วนใหญ่ มักมีประวัติการเป็นโรคหัวใจ โรคเครียดมากกว่าบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ดูแลผู้ป่วยสมองเสื่อม จึงเป็นเรื่องน่าห่วงอย่างยิ่ง

โรคสมองเสื่อมที่พบมากที่สุดคือ โรคอัลไซเมอร์ เกิดจากการสะสมของโปรตีนชนิดหนึ่งในเซลล์ประสาท และ Amyloid plaques ในเนื้อสมองส่วนความจำ ทำให้เซลล์ตาย ไม่สามารถรับส่งกระแสประสาทได้ดังเดิม ส่วนโรคสมองเสื่อมจากโรคหลอดเลือดสมอง จะพบมากเป็นอันดับสอง เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง ส่งผลให้เนื้อสมองตาย เช่น หลอดเลือดสมองตีบ มักพบในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง มักมีอาการแขนขาชา หรืออ่อนแรง เดินลำบาก เกร็ง กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ขณะที่การออกกำลังสมอง ด้วยการอ่านหนังสือ เล่นเกมฝึกสมองต่างๆ เล่นดนตรี หรือเต้นรำ สามารถป้องกันโรคนี้

ขณะนี้ความรู้ใหม่มุ่งไปทางต่อสู้กับโรคสมองเสื่อม ด้วยการบริหารสมอง การวิ่งออกกำลังกาย รวมถึงการมีเซ็กซ์ โดยข้อมูลจากประเทศออสเตรเลียระบุว่า การออกกำลังสมอง เช่น การเล่นเกมปริศนาอักษรไขว้ และออกกำลังกาย ช่วยสร้างและหล่อเลี้ยงเซลล์สมองใหม่ๆ ทำให้เซลล์สมองทำงานดีขึ้น ช่วยให้อาการของโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสันดีขึ้นได้ รวมถึงการวิ่งระยะยาว โดย 2 กิจกรรมนี้จะทำให้ร่างกายหลั่งสารกลุ่มโปรแลคติน ทำให้มีการสร้างเซลล์สมองใหม่ๆ

รพ.พระมงกุฎเกล้า ผนึก ม.รังสิต และโรงเรียนแพทย์สหรัฐ เปิดตัวงานวิจัยชิ้นแรกในโลกหาความเป็นไปได้ในการรักษาโรคอัลไซเมอร์ด้วยสารสกัดจากกวาวเครือขาว ซึ่งมีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนทดแทน ระบุผลการทดลองในห้องแล็บเป็นที่น่าพอใจ เผยสร้างประโยชน์ใหม่ให้พืชสมุนไพร จากเดิมที่ใช้เฉพาะรักษาอาการเซ็กซ์เสื่อมและขยายทรวงอก เป็นการวิจัยสรรพคุณของสมุนไพรกวาวเครือขาว ในการป้องกันและรักษาเซลล์สมองบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นงานวิจัยชิ้นแรกของโลกในเรื่องดังกล่าว เพราะงานวิจัยส่วนใหญ่เป็นการใช้ประโยชน์ของกวาวเครือขาวด้านสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มขนาดทรวงอก

เนื่องจากเอกสารการแพทย์ของต่างประเทศได้กล่าวถึง แนวคิดการรักษาผู้ป่วยอัลไซเมอร์ด้วยฮอร์โมนทดแทน จึงเกิดความสนใจว่าฤทธิ์ของเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิงในกวาวเครือขาว จะสามารถป้องกันเซลล์สมองบาดเจ็บ หรือเสื่อมสภาพในผู้สูงอายุได้หรือไม่ อย่างไร โดยการวิจัยได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ใช้เวลาวิจัยขั้นต้น 1 ปี ซึ่งเสร็จสิ้นโครงการไปแล้ว

การวิจัยในขั้นนี้ได้ทำในหลอดทดลอง เพื่อหาสรรพคุณเบื้องต้นของสารสำคัญในกวาวเครือขาว ว่าจะช่วยยับยั้งความเสียหายของเซลล์สมอง รวมทั้งจะสามารถช่วยให้เซลล์สมองเจริญเติบโตได้หรือไม่ ในการทดสอบได้สร้างแบบจำลองทำให้เซลล์สมองบาดเจ็บหรือเสื่อมสภาพ 3 วิธีได้แก่ ออกซิเดชั่นหรือปฏิกิริยาทางออกซิเจน การเผาผลาญพลังงานและการนำสารพิษเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเกิดจากทานอาหารปนเปื้อนสารเคมี สารพิษในอากาศ

จากนั้นได้ใส่สารสกัดกวาวเครือขาวในแบบจำลองพบว่า อัตราการตายของเซลล์สมองลดลง 30-40% ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอใจ และคำตอบเป็นไปตามสมมติฐานในเบื้องต้นคือ กวาวเครือขาวมีความน่าจะเป็น ในการยับยั้งภาวะสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์โดยผ่านกลไกต่างๆ

"ทีมวิจัยคาดหวังว่า ข้อมูลนี้จะเป็นพื้นฐานของการวิจัยขั้นตอนต่อไปในอนาคต ซึ่งอาจเป็นไปได้มากที่จะนำสารสกัดกวาวเครือขาว ไปพัฒนาทำเป็นฮอร์โมนทดแทนในผู้ป่วยอาการพร่องฮอร์โมนทางเพศในวัยหมดประจำเดือน และอาจพัฒนาเป็นอาหารเสริมที่มีผลในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ โดยมีฤทธิ์คล้ายเอสโตรเจน ซึ่งมีศักยภาพสูงมากในการพัฒนาที่จะนำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์" ผู้วิจัย กล่าว

สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้เป็นความร่วมมือระหว่างแพทย์ รพ.พระมงกุฎเกล้า คณะการแพทย์ตะวันออกของมหาวิทยาลัยรังสิต และEmory University School of Medicine ได้รับทุนสนับสนุนจากสภาวิจัยแห่งชาติ

ด้าน ผศ.ดร.สมภพ ประธานธุรารักษ์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมีผลงานวิจัยด้านเคมีคลินิกของกวาวเครือขาว กล่าวว่า ในการพัฒนาต่อยอดทำฮอร์โมนเอสโตรเจนจากกวาวเครือขาว ยังต้องมีการศึกษาวิจัยอีกมาก โดยเฉพาะในเรื่องพิษวิทยาหรืออาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์ เพราะข้อมูลองค์การอนามัยโลกระบุถึงผลข้างเคียงจากการใช้ฮอร์โมนทดแทนคือ โอกาสเกิดมะเร็งในหญิง ผู้วิจัยควรทำงานวิจัยเพิ่ม เพื่อหากลไกป้องกันอาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์ดังกล่าว
http://xblong.blogspot.com
hppr://sanokjiji.blogspot.com

No comments: